วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

คอมพิวเตอร์และระบบคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์  หมายถึง เครื่องมือสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำงานด้วยคำสั่ง  ชุดคำสั่ง  หรือโปรแกรมต่างๆ  สามารถเชื่อมต่อกันเป็นเครือข่ายได้หลายแบบ   ลักษณะเด่นของคอมพิวเตอร์คือมีศักยภาพสูงในการคำนวณประเภทผลข้อมูลทั้งที่เป็นตัวเลข  รูปภาพ  ตัวอักษร และเสียง

ส่วนประกอบสำคัญของคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ฮาร์ดแวร์  หมายถึง  สjวนที่ประกอบเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์  แบ่งออกเป็น 5  ส่วนคือ


ส่วนที่1  หน่วยรับข้อมูลเข้า   (Input  Unit)
       เป็นวัสดุอุปกรณ์ที่นำมาเชื่อมต่อ  ทำหน้าที่ป้อนสัญญาณเข้าสู่ระบบ  เพื่อกำหนดให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามความต้องการ  ได้แก่
-แป้นอักขระ  (Keyboard)
-แผ่นซีดี  (CD-Rom)
-ไมโครโฟน  (Micophon)  เป็นต้น


ส่วนที่2  หน่วยประมวลผลกลาง (Central  Processing  Unit)
      ทำหน้าที่เกี่ยวกับการคำนวณทั้งทางตรรกะและคณิตศาสตร์     รวมถึงการประมวลผลข้อมูลตามคำสั่งที่ได้รับ


ส่วนที่3  หน่วยความจำ  (Memory   Unit)
         ทำหน้าที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่งมาจากหน่วยรับข้อมูลเพื่อเตรียมส่งไปประมวลผลยังหน่วยประมวลผลกลาง   และการเก็บผลลัพธ์ทีได้จากการประมวลผลแล้วเพื่อเตรียมส่งไปยังหน่วยแสดงผล


ส่วนที่4หน้วยแสดงผล (Output  Unit)
         ทำหน้าที่แสดงข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ทำการประมวลผล  หรือผ่านการคำนวณแล้ว


ส่วนที่5  อุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ (Peripheral  Equipment)
         เป็นอุปกรณ์ที่นำมาต่อพ่วงเข้ากับคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้นเช่น  โมเด็มม  แผงวงจรเชื่อมต่อเครื่อข่าย (Modem)  เป็นต้น


ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์
1.มีความเร็วในการทำงานสูง  สามารถประมวลผลคำสั่งได้อย่างรวดเร็วเพียงชั่ววินาที  จึงใช้งานในการคำนวณต่างๆได้อย่างรวดเร็ว
2.มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง  ทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง  ใช้แทนกำลังคนได้มาก
3.มีความถูกต้องแม่นยำ  ตามโปรแกรมสั่งงานและข้อมูลที่ใช้
4.เก็บข้อมูลได้มาก    ไม่เปลืองเนื้อที่เก็บเอกสาร
5.สามารถโอนย้ายข้อมูลจากเครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่งได้อย่างรวดเร็วช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งาน


ระบบคอมพิวเตอร์
     หมายถึง  กรรมวิธีที่คอมพิวเตอร์ทำการใดๆกับข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่เป็นประโยชน์ตามความประสงค์ของผู้ใช้งานให้มากที่สุด  เช่น  ระบบเสียภาษี  ระบบทะเบียนราษฎร์  ระบบทะเบียนการค้า  ระบบเวช  ระเบียนของโรงพยาบาล  เป็นต้น
การเข้าถึงข้อมูลเหล่านี้สามารถเข้าถึงได้โดยการตรวจสอบจากการประมวลผลของระบบคอมพิวเตอร์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง


องค์ประกอบของระบบคอมพิวเตอร์
        ระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพจะประกอบด้วยส่วนสำคัญ  4ส่วน  ดังนี้

1.ฮาร์ดแวร์  หรือส่วนเครื่อง
2.ซอฟแวร์   (software)
3.ข้อมูล  (Date)
5.บุคคลากร  (Deopleware)


ฮาร์ดแวร์  (Hardware)
หมายถึง  ตัวเครื่องและอุปกรณ์ส่วนต่างๆที่เราสามารถสัมผัสและจับต้องได้   ฮาร์ดแวร์ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 4  ส่วน  ดังนี้ คือ
1.ส่วนประมวลผล  (Processor)
2.ส่วนความจำ (Memory)
3.อุปกร์รับเข้าและส่งออก (Input-Output Devices)
4.อุปกรณ์หน่วยเก็บข้อมูล  (Starage  Device)


ส่วนที่1  CPU
     CPU  เป็นอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ที่เปรียบเสมือนสมอง
มีหน้าที่หลักในการควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์   ประมวลผลและเปรัยบเทียบข้อมูลโดยทำการเปลี่ยนแปลงให้เป็นสารสนเทศที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้  ความสามารถของ  CPU  นั้นพิจารณาจากความเร็วของการทำงาน  การรับส่งข้อมูล   อ่านและเขียนข้อมูลจากหน่วยความจำ   ความเร็วของ ซีพียู  ขึ้นอยู่กับตัวให้จังหวะที่เรียกว่า  สัญญาณนาฬิกาเป็นความเร็วของจำนวนรอบสัญญาณใน 1  วินาที   มีหน่วยเป็น  เฮิร์ต (Hertz)  เช่น  สัญญาณความเร็ว 1 ล้าน รอบใน1วินาที  เทียบเท่าความเร็วสัญญาณนาฬิกา 1 จิกะเฮิร์ต  (1GHz)

ส่วนที่2  หน่วยความจำ (Memory)
จำแนกออกเป็น 2  ประเภท  ดังนี้
1.หน่วยความจำหลัก  (Main Memory )
2.หน่วยความจำสำรอง  ()

1.หน่วยความจำหลัก (Main Memory )
       เป็นหน่วยเก็บข้อมูลและคำสั่งต่างๆของเครื่องคอมพิวเตอร์ ประกอบด้วย
ชุดความจำข้อมูลที่สามารถบอกตำแหน่งที่เก็บข้อมูลหรือคำสั่ง   ข้อมูลจะถูกนำไปเก็บไว้และสามารถนำออกมาใช้ในการประมวลผลภายหลังโดย  ซีพียู  ทำหน้าที่ในการนำข้อมูลเข้าและออกจากหน่วยความจำ
    การทำงานของคอมพิวเตอร์   ต้องใช้พื้นที่ของหน่วยความจำในการทำงานประมวลผลและเก็บข้อมูล  ขนาดความจุของหน่วยความจำ  คำนวณได้จากค่าจำนวนพื้นที่ที่สามารถใช้ในการเก็บข้อมูล  จำนวนพื้นที่คือจำนวนข้อมูล  และขนาดของโปรแกรมที่สามารถเก็บข้อมูลได้สูงสุด  พื้นที่หน่วยความจำมีมากจะทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เร็วมากยิ่งขึ้น

หน่วยประมวลผลกลาง  (CPU)
  หน่วยประมวลผลกลาง หรือ CPU   มีความหมาย
ทางด้านฮาร์ดแวร์ 2 อย่าง คือ
1. ชิป (chip ) ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของคอมพิวเตอร์
2.ตัวกลองเครื่องที่มี  CPU บรรจุอยู่


1.หน่วยความจำหลัก
       แบ่งได้2 ประเภทคือ  หน่วยความจำแบบ  แรม  RAM และหน่วยความจำแบบรอม  ROM
1.1 หน่วยความจำความจำแบบแรม ()
เป็นหน่วยความจำที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าเพื่อรักษาข้อมูล  ข้อมูลหรือแฟ้มข้อมูลจะถูกเก็บไว้ชั่วคราวขณะทำงาน  ข้อมูลที่อยู่ในหน่วยความจำจะอยู่ได้นานจนกว่าจะปิดเครื่อง  หรือไม่มีกระแสไฟฟ้าป้อนให้กับเครื่อง  เราเรียกหน่วยความจำประเภทนี้ว่า  หน่วยความจำแบบลบเลือนได้

ลักษณะของหน่วยความจำแรม

1.2หน่วยความจำแบบ " รอม "
          เป็นหน่วยความจำที่ใช้เก็บโปรแกรมหรือข้มูลพื้นฐานเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์  ข้อมูลที่ถาวรไม่ขึ้นกับไฟฟ้าที่ป้อนให้กับวงจร  ยอมให้  CPU อ่านข้อมูลหรือโปรแกรมไปใช้งานได้อย่างเดียวไม่สามารถเขียนข้อมูลลงไปเก็บไว้ได้โดยง่าย   ส่วนใหญ่ใช้เก็บโปรแกรมควบคุม  เราเรียกหน่วยความจำประเภทนี้ได้ว่า  หน่วยความจำแบบไม่ลบเลือน

ชิปหน่วยความจำแบบรอม (ROM  Chip)


หน่วยความจำสำรอง  (Secondary Memory Unit )
        หน่วยเก็บความจำสำรอง  หรือหน่วยเก็บข้อมูลสำรอง  เป็นหน่วยเก็บที่สามารถเก็บข้อมูลได้ตลอดไปหลังจากปิดเครื่องคอมพิวเตอร์แล้ว

หน่วยความจำสำรองมีหน้าที่หลัก  คือ
1.ใช้ในการเก็บข้อมูลหรืสำรองข้อมูลเพื่อใช้ในอนาคต
2.ใช้ในการเก็บข้อมูล  โปรแกรมไว้อย่างถาวร
3.ใช้ในการเป็นสื่อในการส่งผ่านข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง


ประโยชน์ของหน่วยความจำสำรอง
หน่วยความจำสำรองจะช่วยแก้ปัญหาการสูญหายของข้อมูลอันเนื่องมาจากไฟฟ้าดับเพราะข้อมูลต่างๆที่ส่งเข้ามาประมวลผล  เมื่อเรียบร้อยแล้ว  ผลลัพธ์ที่ได้จะถูกนำไปเก็บในความจำหลักประเภทแรม  หากปิดเครื่องหรือมีปัญหาทางไฟฟ้า  อาจทำให้ข้อมูลสูญหายจึงจำเป็นต้องมีหน่วยความจำรอง  เพื่อนำข้อมูลจากหน่วยความจำแรมมาเก็บไว้ใช้ในงานครั้งต่อไป  หน่วยความจำประเภทนี้ส่วนใหญ่จะพบในรูปของสื่อที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลภายนอก  เช่น  ฮาร์ดดิสก์  แผ่นบันทึก  ชิปดิสก์  ซีดีรอม  ดีวีดี  เทปแม่เหล็ก หน่วยความจำแฟลช  หน่วยความจำสำรองนี้ถึงจะไม่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ก็ยังสามารถทำงานได้ปกติ


ส่วนแสดงผลข้อมูล
ส่วนแสดงผลข้อมูล  คือหน่วยที่แสดงข้อมูลจากสัญญาณไฟฟ้าในหน่วยประมาลผลกลางให้เป็นรูปแบบที่คนเราสามารถเข้าใจได้  อุปกรณ์ที่แสดงผลข้อมูลได้แก่  จอภาพ (Moniter) ,(Screen )เครื่องพิมพ์ (Printer) เครื่องพิมพ์ภาพ ( Ploter) และลำพง  (Spraker)  เป็นต้น


บุคคลากรทางคอมพิวเตอร์   ( peopleware)
บุคคลากรทางคอมพิวเตอร์  หมายถึง  คนที่มีความรู้ความสามารถในการใช้หรือควบคุมให้การใช้     คอมพิวเตอร์เป็นไปอย่างราบรื่นอาจจะประกอบด้วยคนเพียงคนเดียว  หรือหลายคนช่วยกันรับผิดชอบโครงสร้างของหน่วยงานคอมพิวเตอร์

 ประเภทของบุคคลากรทางคอมพิวเตอร์  (peopleware)
1.ฝ่ายวิเคราะห์และออกแบบระบบงาน
2.ฝ่ายเกี่ยวกับโปรแกรม
3.ฝ่ายปฏิบัติงานเครื่องและบริการ

บุคคลากรในหน่วยงานคอมพิวเตอร์
1.หัวหน้าหน่วยงานคอมพิวเตอร์ EDP Manager
2.หัวหน้าฝ่ายวิเคราะห์และวางแผนระบบงาน  System  analyst  หรือ SA
3.โปรแกรมเมอร์
4.ผู้ควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์
5.พนักงานจัดเตรียมข้อมูล

-นักวิเคราะห์ระบบงาน
ทำการศึกษาระบบงานเดิม  ออกแบบระบบงานใหม่
-โปรแกรมเมอร์
นำระบบงานใหม่ที่นักวิเคราะห์ระบบออกแบบมาไว้สร้างเป็นโปรแกรม
-วิศวกรระบบ
ทำหน้าที่ออกแบบ  สร้าง  ซ่อมบำรุง  และดูแลรักษาฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานได้ตาม-ต้องการ
-พนักงานปฏิบัติการ
ทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่  หรือภารกิจประจำวัน  ที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์

อาจแบ่งผู้ใช้คอมพิวเตอร์ได้เป็น 4 ระดับ
1.ผู้จัดการระบบ
คือผู้วางนโยบายการใช้คอมพิวเตอร์ให้เป็นไปตามเป้าหมายของหน่วยงาน
2.นักวิเคราะห์ระบบ
คือ ผู้ที่ศึกษาระบบงานเดิมหรืองานใหม่และทำการวิเคราะห์ความเหมาะสม  ความเป็นไปได้ในการใช้คอมพิวเตอร์กับระบบงาน  เพื่อให้โปรแกรมเมอร์เป็นผู้เขียนโปรแกรมให้กับระบบงาน
3.โปรแกรมเมอร์
คือผู้เขียนโรแกรมสั่งงานเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อให้ทำงานตามความต้องการของผู้ใช้  โดยเขียนตามแผนผังที่นักวิเคราะห์ระบบได้เขียนไว้
4.ผู้ใช้
คือผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทั่วไป  ซึ่งต้องเรียนรู้วิธีการใช้เครื่อง  และวิธีการใช้งานโปรแกรม  เพื่อให้โปรมแกรมที่มีอยู่สามารถทำงานได้ตามที่ต้องการ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น